RS: ยินดีด้วยนะครับ ที่คุณได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักชกยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 ของเรา! อะไรคือการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณในปีที่ผ่านมา?
ศรีสะเกษ: ขอบคุณมากๆครับ การได้รับเลือกให้เป็นนักชกยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 ของเรียลสปอร์ต ซึ่งผมก็ไม่เคยคาดหวังมาก่อนเลย ผมจึงดีใจมากๆ ปี 2017 นั้นจัดได้ว่าเป็นปีที่ยอดเยี่ยมมากของผมจริงๆ ผมต้องขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆคนที่ให้โอกาสกับผม ทั้ง WBC, เคทู โปรโมชั่นส์, ทีมงานนครหลวงโปรโมชั่น , แฟนมวยชาวไทยทุกๆคน, สำนักข่าวทุกๆสำนัก และอื่นๆอีกมาก
สำหรับปีที่ผ่านมานั้น ผมเองมีความสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ผมรู้สึกว่าผมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ซึ่งมันเป็นเพราะผมมีการตัดสินใจที่ดีและซ้อมหนักด้วย เหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะความร่วมมือกันทั้งผมและทีมงาน โดยเฉพาะในเรื่องของการฝึกซ้อม
RS: หลังจากที่คุณได้รับชัยชนะเป็นครั้งแรกในการชกมวยสากลอาชีพ คุณเคยคิดหรือไม่ว่าคุณจะได้เป็นแชมป์โลกในอนาคต?
ศรีสะเกษ: ไม่เลย ผมไม่เคยคิดว่าจะได้มาเป็นแชมป์โลก ผมเคยถามตัวเองว่าผมจะชกต่อไปทำไม ในเมื่อยังไม่เคยชนะสักครั้ง และผมสมควรที่จะชกต่อไปหรือไม่ ตอนนั้นผมหวังเพียงแค่จะได้ชกเป็นคู่ถ่ายทอดสดทางทีวีในเมืองไทย และได้เป็นแชมป์ WBC Asia เท่านั้น
ต่อมาเมื่อผมได้ย้ายมาอยู่ที่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น นั่นแหละที่เป็นจุดเปลี่ยนของผม และหลังจากที่ผมเริ่มจะเก็บชัยชนะได้บ้างแล้ว ผมก็บอกกับตัวเองเราก็ทำได้สำเร็จแล้ว และผมก็เริ่มที่จะฝันและอยากที่จะเป็นแชมป์โลกกับเขาบ้างตั้งแต่ตอนนั้น
RS: ใครเป็นฮีโร่และไอดอลในการชกมวยของคุณ?
ศรีสะเกษ: สำหรับนักชกไทยที่เป็นฮีโร่ของผมก็คือ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBC รุ่นพี่ร่วมค่ายของผมที่ครองแชมป์โลกอย่างยาวนาน ส่วนฮีโร่ในระดับนานาชาติของผมนั้นก็คือ แมนนี่ ปาเกียว อดีตแชมป์โลกหลายรุ่นชาวฟิลิปปินส์ ผมเชื่อว่าเขาเป็นฮีโร่และเป็นแรงบันดาลใจอันยอดเยี่ยมให้กับนักชกชาวเอเชียหลายคนเลยทีเดียว
RS: คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้างในประเทศไทย หลังจากที่คุณสามารถเอาชนะ โรมัน กอนซาเลซ ได้ถึงสองครั้ง?
ศรีสะเกษ: มันยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว ผมได้รับการแสดงความยินดีและชื่นชมมากอย่างคาดไม่ถึง แฟนมวยชาวไทยให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี ดังนั้นผมจึงจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนักและทำฟอร์มการชกให้ดีที่สุดเพื่อพวกเขา
ผมได้มีโอกาสเข้าพบท่านนายกรัฐมนตรีของเราด้วย และท่านก็ได้บอกกับผมว่าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ WBC เส้นนี้ ไม่ใช่เป็นของผมคนเดียวเท่านั้นแต่เป็นของคนไทยทุกคน และนั่นเองก็ทำให้ผมรู้สึกว่ามีกำลังใจและแรงบันดาลใจ ที่จะทำการฝึกซ้อมอย่างหนักในทุกๆวัน
RS: ตอนนี้คุณรู้สึกพอใจหรือไม่ ที่นักชกรุ่นเล็กอย่างคุณเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น และเป็นที่สนใจของสื่อมากขึ้น?
ศรีสะเกษ: ผมรู้สึกพอใจมากครับ ผมมีความสุขมากที่พวกเราสามารถทำให้โลกได้เห็นว่า นักชกรุ่นเล็กๆก็สามารถที่จะมีการชกยอดเยี่ยมให้แฟนๆได้ชมกันได้ พวกเรามีทักษะการชกที่ดี มีความแข็งแกร่ง และมีหัวจิตหัวใจที่ดี ผมหวังว่าแนวโน้มเช่นนี้จะดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ และสำหรับผมก็จะทำให้ดีที่สุดในส่วนของผม
RS: คุณคิดว่าจะข้ามรุ่นไปชกในพิกัดไหนดี หรือว่าจะชกในรุ่น 115 ปอนด์ต่อไปเรื่อยๆ?
ศรีสะเกษ: ผมคิดว่ายังมีไฟต์ที่ยอดเยี่ยมให้หาความท้าทายในพิกัด 115 ปอนด์นี้อีกหลายไฟต์ ผมต้องการที่สู้กับนักชกชั้นดีทุกคนของรุ่นนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าใครคือนักชกที่ดีที่สุดของรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต เมื่อถึงตอนนั้นทีมงานของเราจึงจะคิดถึงเรื่องการข้ามรุ่น แต่ตอนนี้ผมขอโฟกัสที่พิกัด 115 ปอนด์ต่อไปก่อน
RS: เอสตราด้าชนะมารวด 10 ไฟต์แล้ว ตั้งแต่เขาแพ้ โรมัน กอนซาเลซ คุณคิดว่าเขาพัฒนาขึ้นบ้างไหม?
ศรีสะเกษ: เขาเป็นนักชกที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง มีพละกำลังและสภาพร่างกายที่ดี เขาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักชกชั้นดีมาตั้งแต่เขาชกอยู่ในพิกัด 108 ปอนด์แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาทำให้เขาเป็นนักชกที่น่ากลัวคนหนึ่ง
RS: คุณชอบไหมกับการขึ้นชกในอเมริกา? มีอะไรที่ยากต่อการปรับตัวบ้างหรือเปล่า?
ศรีสะเกษ: ผมชอบที่จะขึ้นชกมนอเมริกามากๆ การปรับตัวก็ไม่ยากเลย ผมรู้สึกราวกับว่าเป็นการชกในบ้านเสียด้วยซ้ำไป อาจจะพูดได้ว่าผมอยากที่จะขึ้นชกในอเมริกาอีกเรื่อยๆก็ได้
RS: คุณเต็มใจที่จะเดินทางมาชกกับนักชกที่ดีที่สุดใช่ไหม?
ศรีสะเกษ: แน่นอนที่สุด ผมต้องการที่จะพบกับคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุด และผมก็ไม่กลัวกับการเดินทางไปชกยังนอกบ้านด้วย
RS: คุณให้ความสำคัญกับอันดับนักชกที่ดี่ที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์หริอไม่? ซึ่งตอนนี้คุณก็เป็นหนึ่งใน 10 แล้ว!
ศรีสะเกษ: มันถือได้ว่าเป็นเกียรติยศอันสูงส่งจริงๆ ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นชื่อของตัวเองในอันดับของนักชกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ทั้งหมดนี้ผมคิดว่าเป็นเพราะว่าในแต่ละไฟต์นั้น ทีมงานของเราให้ความสำคัญในการเตรียมพร้อมที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแฟนๆที่คอยให้การสนับสนุนตัวผม และการได้รับเกียรตินี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผมมากจริงๆ
RS: เป้าหมายในปี 2018 นี้ของคุณคืออะไร?
ศรีสะเกษ: ตอนนี้ผมโฟกัสอยู่กับไฟสำคัญกับเอสตราด้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แฟนมวยชาวไทยให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดีและตั้งความหวังกับผมมาก ดังนั้นผมจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะในการชกไฟต์นี้ และผมจะนำผลการแข่งขันที่ดีที่สุดมาฝากแฟนมวยชาวไทยและคนไทยทุกคนให้ได้
RS: ถ้าคุณสามารถที่จะขึ้นชกกับนักชกในอดีตได้คนหนึ่ง โดยที่ไม่นำเอาเรื่องของน้ำหนักเข้ามาเกี่ยวข้องคุณจะเลือกพบกับใคร?
ศรีสะเกษ: ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ไม่ว่าจะเป็นการชกในพิกัดใดก็ได้ เขาเป็นนักชกระดับตำนานคนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้ขึ้นชกอยู่บนเวทีเดียวกับเขา
RS: ถ้าคุณไม่ได้เป็นนักมวย คุณคิดว่าคุณจะทำงานอะไร?
ศรีสะเกษ: ผมคิดว่าผมคงจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่ในชนบทของจังหวัดศรีสะเกษบ้านเกิดของผม ผมเคยผ่านสิ่งที่ยากลำบากมาแล้วด้วยกันอย่าง เคยเป็นทั้งพนักงานเก็บขยะและพนักงานรักษาความปลอดภัยมาแล้ว ผมเคยต้องเก็บอาหารใกล้หมดอายุที่เขาจะทิ้งมารับประทานเพื่อประทังชีวิตมาแล้ว การชกมวยนั้นเปลี่ยนชีวิตของผมให้ดีขึ้น ผมขอขอบคุณทุกโอกาสที่ดีทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผม ผมจะซ้อมให้หนักและทำให้ดีที่สุดอย่างที่ผมจะทำได้
RS: โชคดีนะ แชมป์
Boxing-Boy's HomepageBBH on Twitter
BBH Fanpage
HTML Counter