ลุยมวยโลกสไตล์นาย... บ็อกซิ่ง-บอย (ตอนพิเศษ): สัมภาษณ์ "ไอ้หมีเล็ก" ก่อนตะบันเพชรมณี ชิง WBA เผยแพร่ในนิตยสารน็อคเอาท์ฉบับมวยโลกเล่มที่ 1725 * ตอนแรกสื่อจีนออกข่าววคู่นี้จะเป็นการชิงแชมป์เฉพาะกาลรุ่นมินิมั่มเวตของ WBA ที่ว่างด้วย แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็มีเพียงแค่เข็มขัดแชมป์ WBA International รุ่นมินิมั่มเวตที่ว่าง เป็นเดิมพันเพียงเส้นเดียวเท่านั้น) เชื่อว่าจนถึงวันนี้แล้วนั้น ชาวไทยเราคงจะได้รับทราบกันไปบ้างแล้วว่าในต้นเดือนหน้านี้ กำลังจะมีนักชกชาวไทยรายหนึ่งจากค่าย ก่อเกียรติ์ โปรดั๊กชั่น จะเดินทางไปขึ้นชิงแชมป์ระดับโลกของสถาบันใหญ่ในรุ่น 105 ปอนด์ที่เมืองจีน นั่นก็คือ "เจ้ายา" เพชรมณี ก่อเกียรติ์ยิม หรือ ป.5 เอ็กซินดิคอลยิม อดีตไอ้แอ้ดมวยไทยที่หันเหมาชกมวยสากลอาชีพจนได้เป็นแชมป์สาขาย่อยหลายเส้น ได้แก่ WBC Asia Continental, WBO Oriental และ PABA (ยุค WBS)ในพิกัด 105 ปอนด์ จนกระทั่งได้ก้าวขึ้นเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 4 ในรุ่นมินิมัมเวตของ WBA อยู่ในปัจจุบัน ที่ทาง เหว่ย ซื่อ ไห่ คอมปานี ของจีน ได้ส่งเทียบเชิญให้นักชกหนุ่มวัย 26 ปีรายนี้ เดินทางไปชิงแชมป์เฉพาะกาลในรุ่นมินิมัมเวตของ WBA* และแชมป์ WBA International ในรุ่นเดียวกัน ที่ว่างอยู่ทั้ง 2 เส้น กับรองแชมป์โลกอันดับ 15 เจ้าถิ่นขวัญใจชาวจีน อดีตแชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวตของ WBC สยง เฉ่า จ้ง (เสียง เจ้า จง) แชมป์โลกมวยชายคนแรกของแดนมังกร ที่เคยเป็นคนงานขุดแร่ในเหมืองทองแดงมาก่อน โดยการชกระหว่างทั้งคู่นี้จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 3 ตุลาคมนี้ ที่โรงยิมของมหาวิทยาลัยต้าถง เมืองต้าถง ในมณฑลซานซี ประเทศจีน ความจริงเดิมทีนั้นในวันและเวลาดังกล่าว ทาง เหว่ย ซื่อ ไห่ คอมปานี นั้นได้เตรียมการที่จะส่งอดีตแชมป์โลกรายนี้ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวตของ WBA จาก "ลิตเติ้ล ปาเกียว" น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท เจ้าของตำแหน่งชาวไทยอยู่ก่อนแล้ว แต่ข่าวจากเมืองจีนนั้นระบุว่า ในท้ายที่สุดแล้วแชมป์โลกชาวไทยนั้นเกิดติดภาระกิจด่วนทางราชการทหาร ทำให้ไม่สามารถที่จะขึ้นชกมวยได้ในช่วงหลายเดือนนี้ ดังนั้นทางโปรโมเตอร์ผู้จัดจึงรีบส่งเรื่องด่วนเข้าที่ประชุมบอร์ดของสมาคมมวยโลกทันที ก่อนที่จะมีคำสั่งให้มีการชิงแชมป์เฉพาะกาล* ระหว่าง สยง เฉ่า จ้ง กับ เพชรมณี ก่อเกียรติ์ยิม ในที่สุด ล่าสุดหลังจากที่มีการแถลงข่าวไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ยอดนักชกร่างเล็กจากแดนมังกรรายนี้ก็ได้เดินทางมาซ้อมโชว์สื่อมวลชนที่คลับ SUPERFIT ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีสำนักข่าวถึง 7 แห่ง พร้อมช่างภาพจำนวนมาก มาทำข่าวการซ้อมครั้งนี้ของเขากันนานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง และหลังซ้อมเสร็จนักชกเจ้าของฉายา "ไอ้หมีเล็ก" และ "คนขุดเหมืองจากยูนนาน" ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ กว่าหนึ่งปีที่คุณห่างหายไปจากสังเวียนผ้าใบ ทราบว่านอกจากคุณจะแต่งงานมีครอบครัว อีกทั้งยังได้เปิดยิมมวยเป็นของตัวเอง อันเป็นการแสดงว่าคุณนั้นมีอนาคตที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยเฉพาะหากจะนำไปเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งที่ยังคงเป็นกรรมกรเหมืองแร่ทองแดง ที่ได้ค่าแรงเพียงวันละ 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) เท่านั้น คุณช่วยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมหน่อยได้ไหม? สยง เฉ่า จ้ง: "ผมเองไม่ได้ขึ้นชกมวยมานานกว่า 1 ปี เพราะผมได้เข้าพิธีแต่งงานมีครอบครัวและมีลูก ลูกผมเป็นเด็กดีนะ แม่ของเขาก็เป็นคนดีและให้เกียรติผมด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดีมาตลอด และอย่างที่คุณรู้ผมเองก็ได้เปิดยิมสอนมวยสอนเด็กๆด้วย ผมหวังว่าจะทำให้ผู้คนรู้จักกับกีฬามวยมากขึ้น อะไรทำให้คุณตัดสินใจกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้ง? สยง เฉ่า จ้ง: "ความจริงแล้วผมเองรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่เหมือนกันนะ อาจารย์หลิว (หลิว กัง) เขาเปิดโปรโมชั่นมวยขึ้นใหม่ ก็เลยเอ่ยปากชวนให้ผมกลับคืนสังเวียนอีกครั้ง บอกตามตรงผมเองต้องใช้เวลาตัดสินใจนานถึง 3-4 เดือนเลยทีเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจกลับมาอีกครั้ง ผมคิดว่าร่างกายผมยังพอไหวนะ แต่ก็ต้องปรับตัวพอสมควรทีเดียว" คุณมีความกังวลอะไรบ้างไหม ในการเตรียมตัวเพื่อที่จะขึ้นชกในครั้งนี้? สยง เฉ่า จ้ง: "แน่นอนว่าหลังจากที่ผมไม่ได้ขึ้นชกมานานกว่าปี สิ่งหนึ่งที่จะลดน้อยลงไปนั่นก็คือความแข็งแกร่งของร่างกาย จริงอยู่ที่ผมยังได้ซ้อมร่วมกับเด็กๆที่ยิมของผมอยู่ตลอด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอหรอก เมื่อผมกลับมาซ้อมใหม่ๆนะ ผมเองก็รู้สึกได้เลยว่าผมเหนื่อยง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่พอซ้อมจริงๆจังได้เดือนกว่าๆ ร่างกายของผมก็เริ่มที่จะเข้าที่เข้าทางบ้างแล้ว ผมคิดว่าตอนนี้ผมสามารถที่จะยืนระยะได้ 12 ยกเต็มๆแล้วแน่นอน" เดิมทีเดียวคุณซ้อมเพื่อเตรียมตัวที่จะชิงแชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวตของ WBA กับ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท เจ้าของตำแหน่งชาวไทย แต่บังเอิญว่าเขาจะต้องมีภารกิจพิเศษทางราชการทหารอย่างกระทันหัน คุณจึงต้องเปลี่ยนมาชิงแชมป์เฉพาะกาล* กับคู่ชกคนใหม่แทนที่ มันจะทำให้คุณมีปัญหาหรือไม่? สยง เฉ่า จ้ง: "ไม่มีผลกระทบเลย สำหรับผมการซ้อมมวยก็ไม่ต่างกับการออกกำลังกายธรรมดาๆเท่านั้น ความจริงการซ้อมเพื่อรอชิงแชมป์โลกนั้นดูจะยากกว่าเสียด้วยซ้ำไป ผมถือว่าการชกครั้งนี้จะเป็นการยืดเส้นสายเพื่อเตรียมรอชิงแชมป์โลกในไฟต์ต่อไป ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ดีเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้ขึ้นสังเวียนมานานกว่าปีแล้ว ผมจะซ้อมเต็มที่เพื่อที่จะขึ้นชกในครั้งนี้ แต่รับรองว่าการชิงแชมป์โลกครั้งหน้า ผมจะต้องซ้อมหนักกว่านี้แน่นอน" คุณรู้ตื้นลึกหนาบางของคู่ชิงแชมป์เฉพาะกาล* ของคุณคนนี้อย่างไรบ้าง? "แม้ว่าผมจะยังไม่ได้ข้อมูลอะไรของเขามากนัก แต่ผมก็ได้ดูเทปการชกของเขาบ้างแล้ว นักชกไทยรายนี้เป็นมวยหนุ่มสดที่มีความแข็งแกร่งมาก ทั้งเชิงชกก็ดีอีกด้วย ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าการชกครั้งนี้จะไม่ใช่งานง่ายอย่างแน่นอน แต่ผมก็เตรียมพร้อมที่จะชกได้จนครบ 12 ยกหากว่าการชกยืดเยื้อ ผมเชื่อว่าผมจะสามารถยืนระยะได้อย่างแน่นอน ผมรู้ว่าการชิงแชมป์โลกหนที่สองในชีวิตนั้นย่อมยากกว่าครั้งแรก แต่ผมก็เชื่อในความแข็งแกร่งของผม และก็จะทำมันให้ได้อีกหนเพื่อเติมเต็มชีวิตของผมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งนะ" แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วนักมวยเวลาที่หยุดชกไปนานๆก็มักที่จะขาดการซ้อมที่ต้องเนื่อง ซึ่งจะทำให้ความสมบูรณ์ของร่างกายนั้นลดลงแถมยังอ้วนฉุอีกด้วย แต่ สยง เจ้า จง นั้นยังคงมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ดีอยู่ ทั้งนี้เพราะเขานั้นได้เปิดยิมมวยสอนเด็กอยู่ที่เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงและม้ง เมืองเหวินซาน มณฑลยูนนาน ด้วย ดังนั้นเขาจึงยังคงได้วิ่งออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังได้ฟิตซ้อมวอร์มร่างกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยว่าหลังจากการเริ่มเข้าค่ายซ้อมมวยเพียงแค่ 3 วัน เขาก็จะมีน้ำหนักตัวอยู่แค่ราวๆ 110 ปอนด์ เกินพิกัดรุ่นมินิมัมเวตไปเพียงแค่ 5 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งผู้สันทัดกรณีชาวจีนนั้นเชื่อว่าเวลาซ้อมที่มีอยู่นั้น มากเพียงพอที่จะทำให้เขาคืนฟอร์มเก่งได้เหมือนครั้งที่ครองแชมป์โลกในสมัยแรกได้อย่างแน่นอน และนับตั้งแต่ สยง เฉ่า จ้ง ได้ครองแชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวตของ WBC เมื่อปี ค.ศ. 2012 พร้อมทั้งได้กลายเป็นแชมป์โลกชายชาวจีนคนแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะเสียเข็มขัดไปในปีค.ศ. 2014 ซึ่งต่อมา โจว ซื่อ หมิง (ซู ชิหมิง) จะคว้าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ WBO มาครองได้ในปีค.ศ. 2016 แต่ก็ครองตำแหน่งได้เพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งปี เมื่อถูกนักชกญี่ปุ่นอย่าง โช คิมูระบุกมาแย่งเข็มขัดแชมป์โลกไปได้ถึงในบ้าน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้แผ่นดินจีนต้องว่างเว้นจากเข็มขัดแชมป์โลกมวยชายอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นชาวจีนจึงตั้งความหวังกับการชกในครั้งนี้ของทางเฉ่าจ้งมาก แม้ว่าจะถูกลดเพดานบินลงมาเป็นเพียงการชิงแชมป์เฉพาะกาล* ที่ว่าง เพราะเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกชาวไทยติดภาระกิจทางราชการทหารอย่างกระทันหันก็ตาม และวันอังคารที่ 3 ตุลาคมนี้ สยง เฉ่า จ้ง จะนำเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาลรุ่น 105 ปอนด์ของ WBA* รวมทั้งแชมป์ WBA International รุ่นเดียวกันที่ว่าง มาเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบปีที่ 35 ของตนเองได้หรือไม่ เพชรมณี ก่อเกียรติ์ยิม หนุ่มไทยวัย 26 ปีจะเป็นผู้ให้คำตอบ
Boxing-Boy's HomepageBBH on Twitter
BBH Fanpage
HTML Counter