มารู้จักกับ เจียเมล มากราโม่ คู่ตัดเชือกของ เอกตะวัน เรือใบไข่มุก
ในระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้านี้ จะมีนักชกชาวไทยคนหนึ่งที่ได้โอกาสที่ดีในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่เป็นการขึ้นชิงแชมป์โลกสถาบันหลักก็ตาม แต่ก็เป็นการชกในไฟต์ตัดเชือกเพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์โลกในไฟต์บังคับ อันจะเป็นการการันตีได้ว่าหากเขาเป็นผู้ชนะในไฟต์หน้านี้ โอกาสที่จะได้ขึ้นชิงแชมป์โลกสถาบันหลักเป็นหนที่ 2 ในชีวิตของเขานั้นก็ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน และเขาคนนั้นก็จะเป็นใครไปไม่ได้ เพราะก็คือ เอกตะวัน เรือใบไข่มุก หรือ “โตโต้” ที่มีฉายาเรียกขานจากโปรโมชั่นต้นสังกัดของเขาว่า “ฟลายเวต โฮป” นั่นเอง
สำหรับเอกตะวันนั้นแฟนมวยชาวไทยคงจะพอทราบกันว่า เขานั้นมีดีกรีแชมป์ย่อยหลายสถาบันเป็นการรันตีอยู่ ได้แก่แชมป์ฟลายเวต WBA Asia (ยุคเก่าที่เป็นแชมป์เส้นรองของ PABA), แชมป์ฟลายเวต IBF Asia และ แชมป์ฟลายเวต IBF Pan Pacific และนักชกหนุ่มวัย 30 ปีรายนี้ ก็เคยขึ้นชิงแชมป์โลกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะผ่านความเก๋าของ “ไอ้งูเหลือม” ดอนนี่ เนียเตส ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ไปได้ ซึ่งในไฟต์ดังกล่าวนั้น เอกตะวันก็ตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนเนียเตสไปอย่างเป็นเอกฉันท์ ในบ้านของ “ไอ้งูเหลือม” ชวดแชมป์โลกที่ว่างในรุ่นฟลายเวตของ IBF ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะแพ้มาในไฟต์นั้น แต่เขาก็ยังได้รับโอกาสให้เดินทางไปขึ้นชกตัดเชือก เพื่อที่จะคว้าตั๋วกลับไปชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ IBF อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นการเดินทางไปพบกับนักชกเจ้าบ้านอย่าง “โคตอง” ฮวน คาร์ลอส เรเบโค่ อดีตแชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวตและฟลายเวตของ WBA ชาวอาร์เจนติน่า แต่เอกตะวันก็ไม่สามารถที่จะผ่านด่านหินด่านนี้ไปได้อีก เพราะเขานั้นต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คะแนนไปเมื่อครบกำหนด 12 ยก ดังนั้นการชกในไฟต์หน้าของเอกตะวันนั้น จึงถือได้ว่าเป็นการขึ้นชกตัดเชือกในรุ่นฟลายเวตของ IBF เป็นหนที่ 2 ของเขาอีกครั้งหนึ่งด้วย
สำหรับการชกตัดเชือกของเอกตะวัน ที่มีดีกรีเป็นรองแชมป์โลก IBF อันดับ 3 ในรุ่นฟลายเวตของ IBF ในครั้งนี้นั้น จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน ที่หอประชุม จูราโด ฮอลล์ ของกองบัญชาการเหล่านาวิกโยธินฟิลิปปินส์ ที่ตั้งอยู่ที่ฟอร์ตโบนีฟาซีโอ เมืองตากีก ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะเป็นคู่รองในรายการของ 2 นักชกตากาล๊อก เปโดร ทาดูแรน ซึ่งจะพบกับ ซามูเอล ซัลวา โดยมีเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวตของ IBF ที่ว่างเป็นเดิมพัน ซึ่งคู่ชกตัดเชือกของเอกตะวันนั้นก็คือ เจียเมล มากราโม่ รองแชมป์โลกอันดับ 4 ชาวฟิลิปปินส์วัย 24 ปี เจ้าของแชมป์ WBO Oriental และ WBO International รุ่นฟลายเวตในปัจจุบันนั่นเอง
เจียเมล มากราโม่ นั้นมีฉายาว่า “ปีสโตเลโร่” หรือ “ไอ้มือปืน” ปัจจุบันมีอายุได้ 24 ปี 10 เดือน เพราะเกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปีค.ศ. 1994 ที่เมืองปารานาเก ในนครมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ และหากแฟนมวยชาวไทยได้ยินนามสกุลของเขาแล้วนั้นก็คงจะคุ้นหูไม่น้อย เพราะเขาคนนี้นั้นก็คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ เมลวิน มากราโม่ อดีตแชมป์ฟลายเวตของ GAB, OPBF และ WBO Inter-Continental ชาวฟิลิปปินส์ หนึ่งในนักชกตระกูลหัวกระโหลกไขว้ (สกัล แอนด์ โบนส์ แฟมิลี่) ในอดีต คู่ปรับเก่าของ แสน ส.เพลินจิต, สิน ส.เพลินจิต, พิชิต ช.ศิริวัฒน์, วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น, จ้าวสิงห์ทอง นครหลวงโปรโมชั่น, โชคชัย โชควิวัฒน์, เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม, ฤทธิชัย เกียรติ์ประภัส, พรชัย บุญทวี และ คมฤทธิ์ เอเวอเรดี้ยิม นักชกชาวไทยยุคเมื่อ 16-32 ปีก่อน ดังนั้นเขาก็คือหลานลุงของ ริค มากราโม่ คู่ปรับของ ชนะ ป.เปาอินทร์, ฉัตรชัย สาสะกุล, พะเนียง พูลธรัตน์, พิชิต ช.ศิริวัฒน์, จ้าวสิงห์ทอง นครหลวงโปรโมชั่น และ โตโต้ ป.พงษ์สว่าง และก็ยังเป็นหลานอาของ อัลวิน มากราโม่ ด้วย นอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังมีศักด์เป็นหลานของ รอนนี่ มากราโม่ อดีตแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวตของสหพันธ์มวยโลก หรือ WBF (ปัจจุบันใช้ชื่อย่อใหม่ว่า W.B.Fed.) คู่ปรับเก่าของ หนึ่งเดียว ศักดิ์จารุพร และ ฟ้าสั่ง ป.พงษ์สว่าง และนักมวยไทยอีกหลายคนอีกด้วยเช่นกัน
Boxing-Boy's HomepageBBH on Twitter
BBH Fanpage
HTML Counter
หากจะบอกว่าแรงบัลดาลใจในการขึ้นชกมวยของเจียเมลนั้น การที่เขาเกิดมาเป็นลูกหลานของตระกูลมากราโม่นั้น ก็คงจะถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ลึกๆลงไปแล้วนั้นก็คือการที่เขาได้เห็นเมลวินคุณพ่อของเขาฝึกซ้อมมวยที่ค่ายและขึ้นเวทีชกมวยมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กๆนั้น มันก็ทำให้เขาเกิดความซึมซับและอยากที่จะเป็นนักมวยตามอย่างคุณพ่อของเขาให้ได้ ดังนั้นเด็กชายเจียเมลจึงเริ่มที่จะหัดชกมวยตั้งแต่อายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้น ซึ่งในเวลานั้นเขาเองก็ยังอ่านหนังสือไม่ออกเลยเสียด้วยซ้ำไป เจียเมลฝึกมวยอยู่หลายปีด้วยกัน ก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นเมื่ออายุได้ 11 ปี และอีก 6 ปีต่อมาเมื่อเขาเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เขาก็ตัดสินใจไม่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แต่เขากลับเลือกที่จะมาเป็นนักมวยสากลอาชีพ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะแบ่งเบาภาระครอบครัว เนื่องจากสภาพการเงินของครอบครัวเขานั้นก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่ายากจนกับเขาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีเขาเองก็ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าหากวันใดที่เขาได้ครองแชมป์โลกสถาบันหลัก และสามารถที่จะสร้างรายได้ที่ดีให้กับครอบครัวของเขาแล้ว เขาเองก็จะกลับไปเรียนต่อในชั้นอุดมศึกษาต่อไป เพื่อที่จะได้รับปริญญาบัตรกับเขาสักใบหนึ่ง เจียเมลขึ้นชกอาชีพครั้งแรกในชีวิต เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2012 และก็สามารถที่จะเอาชนะคะแนนทาง อันโตนิโอ้ เมเลนซิโอน มวยใหม่ด้วยกันไปในกำหนด 4 ยก จากนั้นเขาก็เก็บชัยชนะได้อีก 13 ไฟต์รวด ทั้งกับมวยใหม่ๆด้วยกัน และกับมวยอุ่นเครื่องที่มีสถิติแพ้กับชนะแทบจะเท่ากัน หรืออาจจะแพ้มากกว่าชนะเสียด้วยซ้ำไป ก่อนที่เขาจะได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นชิงแชมป์เส้นแรกในชีวิตกับ เจนี่ บอย โบค่า เพื่อนร่วมชาติ และเขาก็สามารถที่จะเอาชนะ TKO ไปได้ในยกที่ 6 คว้าแชมป์ฟลายเวต WBC International ที่ว่างมาครองได้สำเร็จเป็นเส้นแรก จากนั้นเขาก็เก็บชัยชนะในไฟต์อุ่นเครื่องได้อีก 2 หน ก่อนที่จะบินไปชิงแชมป์ WBC Silver รุ่นฟลายเวตจาก มูฮัมหมัด “ฟัลคอน” วาซีม มวยสร้างชาวปากีสถาน ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดีในไฟต์นั้นแม้ว่าเขาจะชกได้ค่อนข้างดีก็ตาม แต่ก็โชคร้ายที่ต้องถูกตัดคะแนนในยกที่ 6 เพราะเกิดอุบัติเหตุหัวชนกันจนวาซีมเกิดแผลแตก ทำให้เมื่อครบ 12 ยก เขาจึงต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนเจ้าของตำแหน่งไปด้วคะแนน 113-114, 113-114 และ 110-117 ชวดแชมป์เข็มขัดเงินของสภามวยโลกไปอย่างน่าเสียดาย และการชกในไฟต์นั้นก็ได้กลายเป็นสถิติด่างพร้อยเพียงครั้งเดียวในชีวิตการชกมวยอาชีพของเขามาจนถึงทุกวันนี้ด้วย เจียเมลกลับมาอุ่นหมัดอีก 3 ไฟต์ ก่อนได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นชิงแชมป์ WBO Oriental รุ่นฟลายเวตที่ว่างกับ ไมเคิล บราโว่ นักชกเพื่อนร่วมชาติ และเพียงแค่จบยกที่ 7 เท่านั้นทางบราโว่ก็ต้องขอยอมแพ้ไม่ออกจากมุมมาสู้ต่อเพราะสภาพบอบช้ำหนัก ทำให้เจียเมลคว้าแชมป์เส้นที่ 2 ในชีวิตมาครองได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็ขึ้นป้องกันแชมป์เส้นนี้ครั้งแรกเอาชนะ TKO เพชรจอแฮ ก่อเกียรติ์ยิม นักชกชาวไทยของเราไปได้ในยกที่ 3 เท่านั้น ก่อนที่ไฟต์ต่อมาเขาจะถูกส่งไปดวลกำปั้นกับ เก้อ เหวิน เฟิง แชมป์ฟลายเวต WBO International ชาวจีน คู่ปรับเก่าของ อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ IBF ชาวไทย ที่ ซูโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ ประเทศจีน และในไฟต์นี้เกียเมลก็ยำใหญ่เสียจนนักชกจีนตาขวาบวมปิด ก่อนที่แพทย์สนามจะแนะนำกรรมการให้ยุติการชกไปในยกที่ 10 ส่งผลให้เจียเมลคว้าแชมป์ฟลายเวต WBO International มาคาดเอวได้อีกเส้นหนึ่ง และเพิ่มสถิติเป็นชนะ 23 ไฟต์ (19KO) และแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ปัจจุบัน เจียเมล มากราโม่ นั้น ฝึกซ้อมอยู่ที่ อีลอร์เด้ สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ ภายใต้การดูแลของ เมลวิน มรากราโม่ คุณพ่อของเขา และ เอ็ดดี้ บัลญาราน อดีตนักชกรุ่นคุณลุงอีกราย และตั้งใจว่าจะใช้การชกกับเอกตะวันในวันที่ 7 กันยายนนี้ เป็นใบเบิกทางให้ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ IBF จาก โมรูติ เอ็มทาลาเน่ ในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป อย่าลืมถามหมัดของ เอกตะวัน เรือใบไข่มุก “ฟลายเวต โฮป” ของ เกียรติ์กรีรินทร์ โปรโมชั่น ดูก่อนก็แล้วกัน